เป้าหมายของเราในวันนี้คือเที่ยววัดโทไดจิ เมืองนารา ( Todaiji - Nara) ซึ่งหอไดบุทสึ (Daibutsuden) บันทึกว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาถึงสถานีนาราประมาณบ่ายโมง เดินผ่านนกพิราบ เราหยุดพักเพื่อหาพิกัดว่าเราอยู่ตรงไหน พวกนกพิราบวิ่งดิ่งกันมา โถลูกนกลูกกา มันคงหิว แต่เราไม่มีอะไรติดกระเป๋า โบกมือบ้ายบายแล้วก็พากันเดินออกมาตามหาที่พัก
เดินหาที่พักเป็นลักษณะบ้านโนบิตะ ที่พักยังไม่ให้เข้าพักแต่ฝากกระเป๋าไว้ได้ ไปถึงหน้าบ้านก็ไม่กล้าเข้าไปเคาะ งุ้งงิ้ง งุ้งงิ้งกันอยู่สองคน เจ้าของเลยเปิดประตูออกมา ไม่งั้นได้ยืนอยู่หน้าประตูยังไม่รู้จะเอายังไงกะกระเป๋า เค้าบอกว่าให้มาอีกทีตอนบ่าย 3 โมงนะ แต่ให้ฝากกระเป๋าไว้ก่อนได้ เราก็โอเค สบายใจวางกระเป๋าไว้ในบ้านละ
เดินออกมาหากาแฟทาน เราได้เค็กครีมข้างบนน่าจะเป็นลูกพีช อร่อยชื่นใจ เดินเล่นอีกหน่อยไปที่ Nara Park
เดินออกมาสำรวจทางเจอสิ่งก่อสร้างสวยงาม ถ่าย ถ่าย ๆ เจอกวาง ถ่าย ถ่าย
ปรากฎว่าแบ็ตกล้องหมด ได้เวลาบ่ายสามโมงเลยเลยเดินกลับไปที่พัก ไปชาร์ตพลัง เอนหลังซักงีบ เย็นนี้ค่อยออกมาลั่นล้าต่อ
แอบส่องสาว ๆ หนุ่ม ๆ เค้าใส่ชุดญี่ปุ่นน่ารักสวยงามดี เหมือนว่าจะมีเทศกาลอะไรซักอย่าง อยากให้ไทยออกแบบชุดประจำชาติที่สวยงามที่สามารถใช้ได้บ่อย ๆ ตามที่ต้องการแบบนี้บ้างนะ หรือรณรงค์ให้แต่งไทยทั้งเมืองตามเทศกาลก็ดีไม่น้อย
เย็นได้ที่เราก็ออกไปหาอะไรทานเย็นนี้ได้กิน ชุดปลาไหลย่างอร่อยที่สุด แต่รูปหายไปไหน เดี๋ยวมาลงอีกรอบ สั่งเป็นชุดที่ถูกใจ อิ่ม อร่อย
ตอนเย็นกลับมานอน ถ่ายบ้านที่นอนคืนนี้ นี่หล่ะบ้านโนบิตะ เหมือนมั้ย ^ ^
ตอนเช้าตื่น อาบน้ำแต่งตัวเราก็ Check Out เอากระเป๋าไปไว้ที่สถานี แล้วออกตะลุยนารากันอีกครั้ง
ออกมาแต่เช้าชาวบ้านก็ยังไม่ออกบ้าน เราก็สบายถ่ายรูปดอกไม้ต้นไม้ บ้านเมือง ศาลเจ้าริมทาง
รถขยะทำหน้าที่ เจอสัญลักษณ์กวางน้อย เหมือนเราจะเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรก ๆ พอเห็นเรามันก็เดินมาหาทีเดียว ขอหนูกินหน๋มหน่อยถ้าพูดได้ มันก็น่าจะพูดแบบนี้แหล่ะนะ
เจอทางเข้าด้านหน้า เค้าเรียกซุ้มประตูนันไดมง (Nandaimon-gate) มีเสารองรับน้ำหนักหลังคาที่เก่าแก่ถึง 18 ต้นใหญ่โตจริง มียักษ์เฝ้าอยู่
เดินเข้าไปในวัดเสียค่าเข้าด้วย คนละ 500 เยน จึงสามารถเข้าไปข้างในได้ พระกำลังสวดมนต์อยู่ ได้ยินเสียงป้าคนไทยเสียงดังมาก บอกหลานเค้าว่าจะเข้ามาทางนี้นะและก็ชวน เราก็อายจังรีบเดินเลี่ยงไป กลัวเค้าจะหาว่ามาด้วยกัน นี่ขนาดมาแต่เช้า นักท่องเที่ยวคนอื่นก็มาเช้าเหมือนกัน ส่วนใหญ่สถานที่ที่เข้าเยี่ยมชมเสียงตังจะเปิด 9 โมงเช้า ^ ^
ก่อนเข้าวัดก็มีการล้างมือตามธรรมเนียมที่จะเข้าที่บริสุทธิ์ วิหารหลวงพ่อโต (Daibutsuden Hall) มาตอนเช้าไม่ค่อยมีคน บางมุมจึงสงบเงียบดีจัง เดินดูศิลปะ งานศาสนา งดงามจริง ชอบ ชอบ
ภายในจะมีเสาอยู่ต้นนึง ซึ่งจะมีรูอยู่ที่โคนเสา เชื่อกันว่า ถ้าใครสามารถลอดรูเสาต้นนี้ได้คำอธิษฐานจะเป็นจริง มีคนบอกว่ากว้างเท่ากับความกว้างของรูจมูก แต่เราไม่กล้ากลัวรอดไม่ผ่าน ขอดู ขอถ่ายรูปเฉย ๆ ก็แล้วกัน
เดินออกมาจากวัดพระใหญ่ก็เดินขึ้นสำรวจ เลี้ยวซ้ายผ่านถนนตัดขึ้นไปบนเขา เดินออกนอกเส้นทางซักหน่อยตัดสนาม เจอขี้กวางเพียงเม็ดดำ ๆ เต็มไปหมดใต้ต้นไม้ ด้านบน กวางนี่มีอยู่ทุกที่
เจอฝาท่อก็ถ่ายไว้ เค้าบอกว่าแต่ละเมืองเค้าจะมีลายฝาท่อไม่เหมือนกัน เท่าที่สังเกตุก็จริงตามเค้าว่า
ผ่านอาคารไม้ที่เข้าใจว่าเค้าไม่ได้ใช้ตะปูในการก่อสร้าง เห็นเอาไม้มาขัด ๆ กันแปลกดี เป็นความรู้เลยนะแต่ก็ไม่เข้าใจกรรมวิธีอยู่ดี
เดินออกมาหน่อยก็เจอที่ที่อยากมา Todaiji Temple Nigatsudo Hall ที่เค้าใช้สถานที่นี้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมศาสนา เพื่อขับไล่ความชั่วร้าย ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ
มองลงมาตรงบริเวณลานมันดูกว้างใหญ่ดี คิดถึงพิธีกรรมที่เราเคยเห็นใน Youtube บริเวณนี้เองก็รู้สึก
ตรงนี้แหล่ะใช่เลย ใช่เลย เดินดูด้านบน เห็นช่องหน้าต่าง แอบส่องแอบไปถ่าย นักบวชวัดนี้คงไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่เพราะคนเยอะ เดินไปเดินมา
เจอโคมไฟสีขาว ศิลปะศาสนาเค้าสวยดี เดินสวนลงมาด้านล่างเห็นนักเรียนน้อยเรียงเข้าแถวเตรียมพร้อมที่จะเดินขึ้นมาชมโดยมีครูคอยจัดระเบียบ พระวิทยากรมายืนต้อนรับ
เดินสวนกับคนญี่ปุ่นลงบันไดมา เราเดินผ่านพระที่กำลังสนทนาอยู่กับญาติ ไม่ค่อยแตกต่างจากไทยนะคือยกมือพนมตอนที่คุยกับพระเหมือนกัน
ลงมาด้านล่างผ่านถนนเส้นเล็ก ๆ ผ่านแม่น้ำ ผ่านอาคาร บ้านเรือน มุมนี้งามนี้เหมือนเป็นบ้านที่ติดอยู่กับวัดเลย
เดินออกมาขึ้นไปทางระฆังใหญ่ข้างร้านขายโดโซะ มีกวางแม่ลูกจ้องมองเราเขม็ง ด้านในไม่ค่อยมีกวางตัวอื่น ๆ นาน ๆ จะมีคนหลงเดินมาทางนี้ที แต่สองตัวนี้ก็ดูสะอาดขนเรียบกว่ากวางตัวอื่น ๆ ที่รวมกันอยู่เป็นฝูงใหญ่
เดินออกมาด้านนอกอยากกินมันเผา ซึ่งคนขายก็เขียนระบุไว้ราคาไซด์ L M S เล็งไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่าอยากกิน เมื่อเราแสดงความจำนงค์ คนขายเค้าก็เอามันมาผ่าแฉลบเฉียง ให้เราแกะมันง่าย ๆ เราสองคนพากันเดินเลี่ยงมานั่งแกะมันกันริมน้ำ ที่มีแม่ลูกนั่งอยุ่ มีกวางรุมอยู่สามตัว เด็กน้อยร้องไห้จ้า เพราะกวางตัวหนึ่งพยายามเข้ามาหาแล้วดึงเสื้อ แม่เด็กพยายามกันเจ้ากวางออก สุดท้ายก็ต้องเก็บของอุ้มเด็กใส่รถเข็นแล้วจากไป
เจ้ากวางเริ่มแบนเข็มมาที่เราที่กำลังแกะกินมันอย่างสนุก อากาศเย็น ๆ มันอุ่น ๆ นี่มันดีนะ ที่รักของเรายื่นเศษมันให้เจ้ากวาง มันติดใจตามไล่จะเอาอีก เปลือกมันที่เราแกะกองคิดว่ามันคงกินได้ก็ให้มัน สุดท้ายส่วนของเราที่กินไม่ทันก็เลยต้องให้เจ้ากวางจนหมด ส่งยิ้มให้กวางแล้วก็โบกมือว่าไม่มีแล้ว มันยืนมองตาแป๋ว เราเดินออกมาจากที่นั่งริมน้ำ มีกวางมองตามอยู่ข้างหลัง เหมือนส่งแล้วบอกว่ากลับมาใหม่นะ