ยามเย็นออกมาจากโรงแรมที่พักเพื่อไปหาอะไรกินและเที่ยววัดอาซะกุสะ ลงสถานี Asakusa ดูแผนที่เพื่อความแน่ใจว่าจะออกด้านไหน เดินอ้อมเดินวน ข้ามทางม้าลาย ก็เจอประตูทางเข้า
มีรูปปั้นยักษ์หน้าตาขมึงทึงอยู่หน้าวัด และโคมไฟสีแดงอันใหญ่ ที่คนต่อคิวถ่ายรูปกันเยอะเลย ไม่อยากไปต่อแถวเลยถ่ายมุมไกลเห็นโคมแดง เก็บเป็นที่ระรึกว่าเราก็มา ก็พอละ เห็นเทคนิคการถ่ายภาพของบรรดาหนุ่ม ๆ เค้าเอากล้องวางบนพื้นใต้โคมไฟและกลุ่มชายหนุ่ม 5-6 คน ยืนล้อมโดยมีโคมไฟเป็นฉากหลัง ไม่ได้ไปส่องด้านในโคมไฟจะเป็นไง แต่คิดว่าภาพที่ได้ก็น่าจะดูดีสวยงาม
เดินผ่านทางทางมีร้านรวงอยู่สองข้างทางเป็นพวกร้านขายของที่ระรึก ร้านส่วนใหญ่ปิดแล้ว ขนาดปิดหลายร้านนักท่องเที่ยวก็ยังเยอะอยู่ เดินมาพักนึงเป็นสี่แยก เลยลองเลี้ยวซ้าย ปรากฎว่าแถวนั้นเหมือนเป็นแหล่งสำเพ็งเลย ขายของเยอะมากพวกเสื้อผ้า ถุงมือรองเท้า เลยได้เสื้อหนาวตัวใหม่ 1 ตัวสีดำ ราคาถูกด้วย และถุงมือหนังสีดำใส่แล้วอุ่นดี เพื่อเตรียมตัวไปนอนที่คาวากูจิโก๊ะ พรุ่งนี้
ช๊อบปิ้งเล็กน้อยตามความจำเป็นก็กลับเข้าสู่เส้นทางเดิม มุ่งสู่วัดอาซะกุสะ วัดเปิดไฟสวยงามเชียว ได้ยินเสียงคนไทยเป็นระยะ ระยะ คนญี่ปุ่นก็ไม่ใช่น้อย พากันไปเดินถ่ายรูปไฟ มีโคมไฟดำ โคมไฟแดง ด้านในก็มียักษ์เฝ้าประตูเหมือนที่ไทย แต่ชุดและลักษณะนี่แตกต่างนะ
ของเค้านี่จะเป็นนักรบโบราณไม่รู้ว่าเป็นใคร ถ้าเรียนโบราณคดี วัฒนธรรมต่างประเทศมาการเที่ยวชมน่าจะสนุกกว่านี้เยอะ ถือว่าเดินเอาบรรยากาศแล้วกัน
ส่วนใหญ่แหล่งท่องเที่ยววัด จะประดับไฟ ส่องสิ่งก่อสร้างสีทอง ช่างสุกใสสกาวแวววาว
ดอกซากุระกลางคืนก็ยังชูช่อออกดอกให้ชมโฉมเหมือนเคย
เดินวน ๆ หลง ๆ ถ่ายรูป ได้หลายภาพ ชมวัดได้ความรู้สึกสบายใจเราก็เดินทางกลับไปหาอะไรรับประทานต่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น