ออกจากสถานี คาวากูจิโก๊ะ เราก็ขึ้น Retro Bus จ่ายคนละ 1100 เยน เพื่อต่อ ไปยังสถานีสุดท้ายเพื่อให้เจ้าของที่พักมารับ เมื่อจบทริปเสียดายตัง Retro Bus มากเพราะว่เราขึ้นกันแค่ตอนขาไป ตอนขากลับเจ้าของใจดีมาส่งถึง คาวากูจิโก๊ะเลย
Retro Bus พาเราซอกซอนไปรอบทะเลสาบ เห็นหิมะกองกันอยู่แน่น ๆ ก็รู้สึกหนาว หิมะถมตัวบ้านเกือบมิด บางบ้านมีรถไม่ได้ใช้หิมะก็จับตัว สงสารมันจังคงหนาวน่าดู ผ่านโรงแรมที่พักริมทะเลสาบหลายแห่ง เอาไว้คราวหน้าจะมาพักแถวนี้ดีกว่าถ้ามีโอกาส
เมื่อถึงสถานีสุดท้ายมีร้านขายของที่ระรึก ร้านไอศรีม พยายามเดินหาตู้โทรศัทพ์ปรากฎว่าไม่มี เลยขอให้คนขายของในร้านช่วยโทรบอกให้หน่อย ตอนแรกโทรไม่ติด เค้าไม่คุยภาษาอังกฤษแต่เราสื่อสารกันรู้เรื่อง ^ ^ เพราะเราเอาชื่อโรงแรม เบอร์โทรของเราให้เค้า อาจเพราะมีคนมาพักที่นี่และขอให้ช่วยโทรบ่อยมั้ง ใจดีจัง ขอบคุณค่ะ
ที่ริมทะเลสาบ มีฝรั่งกำลังวางกล้องโดยมีเป็ดน้อยน้อยและภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง แถวนี้ดูเหมือนมีแปลงผักด้วยแต่เพราะหิมะ มันคงหนาวตายหมดเหลือแต่ก้านดำ ๆ ที่โผล่ขึ้นมาจากแปลง ต้นไม้มีแต่ก้าน มันดูเหงา ๆ หนาว ๆ ดีนะที่เรามีที่รักเรามาด้วย
กลางคืนเปิดทีวีนอนดูหนังญีปุ่น นอนอุ่นอยู่ในห้อง เช้ามองวิวภูเขาไฟฟูจิที่มันออกจะสว่าง ๆ มองไม่เห็น อากาศเช้านี้พยากรณ์อากาศว่าฝนตก หวั่นใจจริงวางแผนว่าจะไป Hakone ต่อ แต่ถ้าตกคงจะไม่สนุก เปียก ๆ หนาว ๆ
ก่อน Check Out เราก็รับประทานอาหารเช้ากันอีกมื้อ มีกาแฟที่เราต้องบริการตุัวเอง อิ่มอุ่นสบาย ๆ อาหารอร่อย มีผักดอง น้ำซุป ปลาซาบะย่าง
เวลาประมาณ 8.30 น. เราก็ออกเดินทางจากที่พักกลับไปที่สถานีคาวากูจิโก๊ะ ซื้อตั๋วรถบัสกับเคาน์เตอร์ แล้วนั่ง Fuji Bus ไปสถานี Gotemba รถบัสผ่าน Fujiten Resort ผ่านสถานีที่จะไปต่อที่ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5
ฝนรินลงมาเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ขับผ่าน รถบัสที่นี่แล่นไม่เร็วมาก ไปอย่างระมัดระวังสองข้างทางเต็มไปด้วยหิมะ เห็นน้ำซึมออกมาจากหิมะแล้วกลัวลื่นจังแต่คนขับชำนาญและขับด้วยความไม่ประมาท อุ่นใจค่ะ
มุมมองบนรถบัสมันดีนะ แต่วิ่งไปซักพักอากาศข้างนอกเริ่มทำปฎิกิริยา ทำให้กระจกมัวเพราะอากาศข้างนอกกับข้างในไม่เท่ากัน ภาพก็เลยมัว จนถึงมองไม่เห็นเลยอดเก็บภาพสวย ๆ
เราสามารถจ่ายเงินสด แสดง Pass หรือตั๋วที่เราซื้อจากเคาน์เตอร์ได้ ขึ้รถบัสบริเวณตรงกลาง เวลาลงให้กดสัญญาน และเดินไปด้านหน้า โชคดีที่เราลงที่สถานีสุดท้าย ไม่ต้องกด ไม่ต้องกลัวลงผิด
เห็นอากาศข้างนอก เรื่องไป Hakone ก็ทบทวนใหม่ นั่งรถไฟกลับไป Shinjuku ดีกว่า ยังมีอีกที่ที่ยังไม่ได้เที่ยวคือ Shibuya ไปเดินในเมืองน่าจะมีที่หลบฝนเยอะกว่า สรุปเราก็ขึ้นรถไฟจากสถานี Gotemba กลับ Shinjuku
โดยทำแผนการเดินทางโดยใช้ http://www.hyperdia.com/
Gotemba (JR Gotemba Line) ไปสถานี Matsuda แล้วเดินไปต่อรถไฟที่ Shin - Matsuda (Odakyu Odawara Line) ไปสถานี Shinjuku
รถไฟนำเราผ่านลำธาร หมู่บ้าน แปลงผักสวนครัว เค้าทำเล็ก ๆ ไม่กี่แปลง อยากรู้ว่าที่ญีปุ่นมีแปลงผักใหญ่ ๆ มั้ยนะ โรงงานอุตสาหกรรมของเค้าเป็นแบบไหน หรือว่ากระจายไปต่างประเทศหมด
ต้นซากุระก็มีบานเป็นระยะ เมื่อถึงาสถานี Matsuda เราก็ลงไปยืนรอให้รถไฟประตูเปิด ไม่ยอมเปิดให้เรา จนคนข้างนอกช่วยกดให้ คือ เหมือนว่ามันจะมีปุ่มให้เรากดว่าเราจะออก ประตูรถไฟไม่ได้เปิดอัตโนมัติ ถ้าลงที่สถานีสองคนสงสัยไม่ได้ออกแน่ มีนักศึกษาเดินออกมาเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นเพราะสถานีมันแปลก ๆ มันอยู่บนพื้นดิน ดูเหมือนจะไม่มีใต้ดิน ปกติรถไฟญี่ปุ่นมันต้องมีสถานีต่อใต้ดินและมีป้ายชี้ ๆ ก็งงว่าอีกสถานีที่เราจะต่ออยู่ที่ไหน
เลยเดินดูตามแผนที่ก็หาไม่เจอ ก็เลยเดินออกมา มาเจอทางออกที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เราเดินงงอยู่ว่าจะต้องไปต่อรถไฟที่ไหน เดินเข้าเดินออกหวังจะให้ใครมาช่วย แต่เงียบมากสถานีนี้ เข้าใจว่าเมื่อเราออกจากถสถานีเราต้องจ่ายตัง เพื่อจะไปขึ้นสถานีใหม่
พอดีมีแม่กับลูกที่เค้าเข้าห้องน้ำเค้าออกมาจากห้องน้ำแล้วเคาะกระจกห้องด้านข้างทางผ่าน มีเจ้าหน้าที่เปิดหน้าต่างออกมารับเงินเป็นค่าโดยสาร ส่วนเราก็ยืน บัตร Suica ของเราเพื่อให้เค้าทำการหักราคาออกจากบัตร บอกถามสถานีว่า Shin Matsuda อยู่ที่ไหน เจ้าหน้าที่ทวนชื่ออีกครั้ง เราก็ Yes Yes กรรมเราออกเสียงสถานีไม่ถูก เจ้าหน้าที่ชี้มือไปอีกสถานีที่ต้องข้ามทางม้าลาย เราก็เดินตามมือชี้ไปเรือ่ย ๆ ก็เจอสถานีเป้าหมาย Shin Matsuda Station
ตอนไปที่ฟูจี ช่วงเดือนมีนาคมหนาวมากไหมค่ะ (พอดีจะไปปลายมีนา 58 )เลยมาทำการบ้านเตรียมตัวค่ะ
ตอบลบ